การค้าขาย ขายของออนไลน์ เป็นช่องทาง สร้างรายได้ที่หาเงินได้เร็วกว่าอาชีพอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็น การขายของออนไลน์ หรือขาย แบบมีหน้าร้าน ขายของตามสถานที่ต่าง ๆ หากไม่มีทักษะหรือพื้นฐานการขายเบื้องต้นเลย โอกาสประสบความสำเร็จ ก็อาจจะยาก บทความนี้ เรามีเทคนิค ขายดี สร้างกำไรงาม ๆ เทคนิคการขาย ที่ดี ควรทำอย่างไร? จะมีอะไรบ้างนั้น ไปดูพร้อม ๆ กันเลย
อยากค้าขาย ต้องเริ่มต้นอย่างไร?
คนส่วนใหญ่ มักมีคำถามว่า อยากค้าขาย จะเริ่มต้นอย่างไร? เป็นคำถามยอดฮิต ที่หลาย ๆ คน คงกำลังหาคำตอบกัน การเริ่มต้น ค้าขายที่ดี ทำได้ดังนี้
👉🏻 สินค้าที่จะขาย คืออะไร?
ต้องรู้ว่าสินค้าที่จะขาย คืออะไร ต้องมีความถนัด เข้าใจในสินค้าที่จะขาย สามารถตอบคำถามลูกค้าได้จริง อีกทั้งหากต้องการค้าขายในระยะยาว อย่าเลือกขายสินค้าแฟชั่น ที่มาเร็วไปเร็ว หรือพวกของตามกระแสต่าง ๆ เพราะเวลาที่เรากักตุนไว้ แล้วสิ่งของเหล่านั้นเริ่มเสื่อมความนิยม จะทำให้โอกาสขาดทุนมีสูง ของเหลือสต็อก และทำอะไรไม่ได้
👉🏻 การตั้งชื่อร้าน
หลายคนอาจคิดว่า การตั้งชื่อร้านค้า จะตั้งชื่อร้านอะไรก็ได้ตามใจชอบ ยิ่งถ้าแปลกไม่ซ้ำใครยิ่งดี แต่รู้ไหมว่า อยากขายของให้ ขายดี การตั้งชื่อร้าน ต้องมีเทคนิค คือ ต้องอ่านง่าย จำง่าย คุ้นหู และต้องค้นหาเจอง่าย
- อ่านง่าย ชื่อที่ออกเสียงยาก ไม่คุ้นหูคนไทย มีผลทำให้ลูกค้าไม่จดจำร้าน หรือบางทีก็ไม่กล้าแนะนำร้านคุณกับคนรู้จัก เพราะกลัวออกเสียงผิด เท่ากับคุณเสียโอกาสได้ลูกค้าใหม่ไปอีกคน
- จดจำง่าย คุ้นหู ชื่อร้านที่ดี ควรทำให้ลูกค้าจดจำได้ง่าย เห็นปุ๊บ จำปั๊บ ยิ่งดี
- ค้นหาเจอง่าย สมัยนี้ หากใครอยากรู้อะไร หรือหาอะไรไม่เจอ ก็มักจะหาจาก Google หรือ Facebook กันทั้งนั้น ยิ่งถ้าคิดชื่อได้ตรงกับ คำศัพท์ที่ลูกค้าใช้ค้นหา (Search) ก็ยิ่งมีโอกาส ทำให้ลูกค้า ค้นหาร้านเราเจอง่ายขึ้นด้วย
👉🏻 ช่องทางที่จะขายสินค้า
เมื่อรู้สินค้าที่ต้องการแล้ว ต้องรู้ต่อว่ามีช่องทางใดที่สามารถขายได้บ้าง หากเป็นตลาด, ห้างสรรพสินค้า หรือหน้าร้านทั่วไป ควรมีการลงพื้นที่จริง เพื่อศึกษาพฤติกรรม ความเป็นไปได้ของผู้ซื้อว่ามีคนสนใจสินค้าคุณมากน้อยแค่ไหน กลุ่มเป้าหมาย ที่ต้องการขายตรงกับย่านนั้น ๆ หรือไม่ ถ้าหากเป็นช่องทางออนไลน์ ต้องรู้จักวิธีนำเสนอ ช่องทางการโฆษณา อย่างถูกต้องด้วย
👉🏻 รู้วิธีนำเสนอ ให้สินค้าขายได้
การนำเสนอกับลูกค้า เป็นอีกสิ่งที่พ่อค้าแม่ค้ามือใหม่ต้องรู้ เพราะต่อให้สินค้าโดนใจ มีช่องทางที่ดี แต่ขาดการนำเสนอ ที่น่าสนใจ โอกาสขายไม่ได้ก็มีสูง การนำเสนอ ต้องเลือกให้เป็นด้วย เช่น ถ้ามีหน้าร้าน ควรตกแต่ง มี ป้ายหน้าร้าน บอกชัดเจนว่า ขายสินค้าอะไร ขายผ่านช่องทางออนไลน์ ก็ต้องรู้วิธีถ่ายรูป แต่งรูปให้สวย ดูน่าสนใจ รู้จักการใช้แคปชั่น โพสต์ต่าง ๆ ที่ลูกค้า จะเข้ามาเลือกซื้อ
👉🏻 การตั้งราคา เป็นสิ่งสำคัญ
หากเป็นสินค้าพื้น ๆ ที่มีขายกันทั่วไป ราคา จึงไม่ควรสูงกว่าราคาตลาด แต่ถ้าหากสินค้าคุณภาพดีกว่าจริง ๆ ควรมีการอธิบายรายละเอียด เพื่อให้เห็นความแตกต่าง อย่างชัดเจน แต่ถ้าเป็นสินค้าน่าสนใจ ไม่ค่อยมีใครวางขาย หรือเป็นเจ้าแรก ๆ ก็ควรตั้งราคาอย่างเหมาะสม เอากำไรแค่พอควร เพราะอย่าลืมว่า หากสินค้าติดตลาด มีลูกค้าเยอะ คู่แข่ง ก็มักเกิดขึ้นได้ และถ้าคุณตั้งราคาแพงเกินจริง โอกาสที่จะขายได้ในอนาคต ย่อมลดลงแน่นอน
👉🏻 รู้แหล่งสินค้า ที่ช่วยลดต้นทุน
เทคนิค ขายดี ไม่ใช่แค่รู้วิธีขายเท่านั้น แต่จะต้องรู้ การบริหารต้นทุน อย่างถูกต้องด้วย มีการสำรวจ ศึกษาข้อมูล วิธีนำเอาสินค้ามาจากแหล่งที่ถูกที่สุด เมื่อรวมต้นทุนทุกอย่าง ทั้งค่าสินค้า, ค่าจัดส่ง และอื่น ๆ แต่ทั้งนี้ ต้องเป็นสินค้ามีมาตรฐาน ได้ตามคุณภาพที่กำหนดไว้ด้วย เพราะบางแห่ง สินค้าถูกจริง แต่คุณภาพไม่ได้ อาจจะเสียชื่อร้านของคุณไปด้วย
👉🏻 แผนการตลาด
แผนการตลาด เป็นสิ่งสำคัญ ที่จะกำหนดชะตาของร้านคุณ เพราะถึงคุณจะมีสินค้าคุณภาพดีราคาถูก แต่ถ้าไม่มีใครรู้จักร้านของคุณ ก็ไม่เกิดประโยชน์อ จึงควรวางแผนให้ดีว่า จะโปรโมตร้านค้า หรือสินค้าของคุณอย่างไร จะดึงดูดลูกค้าอย่างไร และจะทำให้อย่างไรให้ร้านคุณที่เพิ่งเปิดใหม่เอาชนะร้านอื่น ๆ ที่เปิดมาก่อนหน้าคุณได้ สามารถวางแผนได้ ดังนี้
- วาดภาพเป้าหมายให้ชัดเจน
- มีขั้นตอนการปฏิบัติ เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย เช่น เมื่อเปิดเพจแล้ว จะทำให้คนรู้จักอย่างไร
- วางงบประมาณที่จะใช้ เพื่อทำให้ขั้นตอนต่าง ๆ สำเร็จ
- วางกำหนดเวลา เพื่อประเมิน ตรวจสอบ และปรับปรุงแผน
(อ่านบทความ : มือใหม่ต้องรู้! แผนธุรกิจ คืออะไร? ยอดพุ่ง กำไรเพิ่ม ทำได้ง่ายๆ)
👉🏻 ถามใจตัวเองว่า รักการขาย จริงหรือไม่
อีกหนึ่งสิ่งสำคัญ ที่ไม่แพ้เรื่องอื่น เพราะต่อให้อยากขายของมากแค่ไหน แต่ต้องถามใจตัวเองให้ชัดเจนว่า ชอบการขายของจริงหรือไม่? รองรับอารมณ์ลูกค้าได้แค่ไหน? ต้องพูดคุยให้เก่ง รู้วิธีขายอย่างถูกต้อง เหนื่อยกว่าการทำงานออฟฟิศทั่วไป รู้วิธีบริหารต้นทุน บริหารกิจการให้ไปรอด และเรื่องอื่น ๆ อีกมากมาย ถ้าคิดว่าไหว มั่นใจในความสามารถ รักในการขายของจริง ๆ ก็ลองได้เลย ไม่ใช่ปัญหา
👉🏻 อดทนกับสิ่งต่าง ๆ ให้ได้
ท้ายที่สุด ของการเริ่มต้นขายของ ต้องมีความอดทนอดกลั้นให้มากที่สุด ในช่วงแรก ๆ อาจต้องเจอปัญหามากมาย เช่น ขายยังไม่ค่อยดี เจอลูกค้าเรื่องมาก ปรับตัวกับการทำงานใหม่ ๆ หรืออาจต้องหาแหล่งสินค้าต้นทุนถูกกว่าเดิม ปรับราคาให้เหมาะสม เป็นต้น ทุกอย่างต้องใช้ความอดทนสูง ไม่มีใครทำสำเร็จได้ในระยะเวลาอันสั้น ดังนั้นถ้าคิดว่าอดทนไหว ก็เริ่มต้นธุรกิจได้เลย
เทคนิค ขายดี ทำได้อย่างไร?
สำหรับพ่อค้า แม่ค้า ที่เปิดร้านค้า หรือขายของออนไลน์อยู่แล้ว อยากให้ขายขายดี แซงคู่แข่งขึ้นไปอีก เทคนิคการขาย ที่ช่วยกระตุ้นยอดขายให้ปังกว่าเดิม ทำได้ดังนี้
1. รู้วิธีปิดการขายอย่างถูกต้อง
พ่อค้า แม่ค้า ทั้งหลาย ไม่รู้วิธีปิดการขายอย่างถูกต้อง ควรเปิดแบบไหน ใช้คำพูดอะไร เพื่อไม่เปิดโอกาสให้กับลูกค้าได้ไปมองร้านอื่น ๆ เทคนิคนี้ง่ายมาก ๆ เพียงแค่เลือกใช้ คำถามปิดการขายอย่างถูกต้อง โดยอาศัยคำพูด ที่ลูกค้าปฏิเสธได้ยาก เช่น สรุปซื้อสีไหนดีคะ/ครับ, ตกลงอยากได้รุ่นไหนมากกว่ากันคะ/ครับ เป็นต้น วิธีปิดการขายแบบนี้ เหมือนเป็นการให้ลูกค้าต้องเลือกว่า อยากได้แบบไหนมากกว่า เท่ากับคุณมีสิทธิ์ขายได้แน่นอน
2. กริยา ท่าทาง คำพูดสำคัญมาก
การเป็นผู้ขาย เรื่องบุคลิกภายนอก ก็ส่วนหนึ่ง แต่กริยา ท่าทาง คำพูด สำคัญมาก พยายามทำให้สุภาพ หรือเน้นเป็นกันเอง แต่ไม่ล่วงเกิน ไม่ดูหยาบคายกับลูกค้ามากนัก สีหน้าต้องมีอัธยาศัยดีเสมอ แม้จะบอกว่ากำลังหงุดหงิด เครียดกับอะไรก็ตาม แต่เมื่อคุณยังขายของอยู่ ลูกค้าย่อมต้องการได้รับสิ่งที่ดีที่สุด ในทุกรูปแบบ ดังนั้น อย่าเอาอารมณ์ส่วนตัวมาปะปนกับการทำงาน
3. เข้าใจธรรมชาติของลูกค้า
ลูกค้าแต่ละคน มีวิธีเลือกซื้อต่างกัน เทคนิคการขาย ที่เข้าใจความเป็นธรรมชาติของลูกค้า เช่น ลูกค้าบางคนขอบมองหาคนขาย แสดงว่าต้องการคำแนะนำ แบบนี้ให้เข้าไปช่วยเหลือได้เลย ลูกค้าจะประทับใจมาก แต่ถ้าลูกค้าบางคนเดินนิ่ง ๆ ดูนั่นนี่ไปเรื่อย อาจแค่สอบถามเบื้องต้น หากลูกค้าไม่ต้องการข้อมูล ก็ปล่อยให้เดินเอง เพราะเขาอาจชอบความเป็นส่วนตัวมากกว่า เป็นต้น
4. อย่าเน้นแต่ขายอย่างเดียว โดยไม่สนใจเรื่องอื่น
พ่อค้า แม่ค้าบางคน ไม่เข้าใจ ต้องขาย ถึงจะได้ลูกค้า มียอดดี ๆ แต่การเน้นขายมากเกินไป จะทำให้ลูกค้าอึดอัด และไม่อยากกลับมาซื้ออีก ทางที่ดี คือ ให้เน้นการขายตามความเหมาะสม เช่น จังหวะนี้ ลูกค้ากำลังสอบถามราคา ก็บอกตามจริง และอาจเสริมโปรโมชั่นบางตัว ที่ดูน่าสนใจ แต่ถ้าลูกค้าบางคน เข้ามาแล้ว ยังไม่ได้ถามอะไร ก็อาจปล่อยให้เลือกไปก่อน ไม่ต้องเร่ง ไม่ต้องรีบร้อน ที่พูดเสนอขายอย่างเดียว หรือถ้าเขาชวนคุยเรื่องอื่น ๆ ก็พูดคุยได้ ไม่จำเป็นต้องวกเข้าเรื่องสินค้าเสมอไป
5. รู้วิธีสร้างสัมพันธ์อย่างถูกต้อง
การสร้างสัมพันธ์ที่ดี จะช่วยให้คุณได้ลูกค้าในระยะยาว เช่น พนักงานขาย เมื่อออกไปพบลูกค้าที่เคยคุยงานกันไว้ อาจมีของฝากเล็ก ๆ น้อย ๆ แม้ราคาไม่ได้แพงมาก แต่ทำให้ลูกค้าสัมผัสได้ ถึงความมีน้ำใจ ความเอื้อเฟื้อ เวลามีงาน หรือต้องการออเดอร์ ก็มักนึกถึงคุณเป็นอันดับต้น ๆ เสมอ แค่นี้ ก็ช่วยเพิ่มโอกาสในการทำยอดขายให้สูงขึ้นกว่าเดิม แถมยังได้รับการจดจำ กลายเป็นคนที่ลูกค้าชื่นชอบ ไว้วางใจอีกต่างหาก
6. ปรับเปลี่ยนรูปแบบการนำเสนอสินค้า
สำหรับการขาย บนช่องทางออนไลน์ การโพสต์ขายแบบเดิม ๆ แพทเทิร์นซ้ำ ๆ จะทำให้ลูกค้าเบื่อได้ เราจึงต้องคอยปรับเปลี่ยน รูปแบบ ในการโปรโมทสินค้า เพื่อกระตุ้นให้เกิดยอดขาย เช่น โพสต์ในรูปแบบของวิดีโอ วิดีโอสอนใช้งาน รีวิวจากผู้ใช้จริง หรือใช้คำโปรยข้อความ ที่ทำให้เกิดความน่าสนใจ เป็นต้น พยายามสลับสับเปลี่ยน รูปแบบการโพสต์ขายสินค้าไปเรื่อย ๆ และให้มีการเคลื่อนไหวบนแพล็ตฟอร์ม ที่เราขายของ อยู่สม่ำเสมอ
7. หยิบคำรีวิวจากลูกค้า มาสร้างคอนเทนต์
Feedback จากลูกค้าใครว่าไม่สำคัญ เพราะ Feedback ดี ๆ หรือคำรีวิวสินค้าและการบริการที่ได้จากลูกค้า นำมาโพสต์เป็นคอนเทนต์ลงบนเพจแล้วแท็กขอบคุณ ถ้าลูกค้าของเรามีการแชร์ออกไปในพื้นที่โซเชียลของลูกค้าเอง ตรงนี้จะยิ่งช่วยให้มีโอกาสที่จะได้ลูกค้าใหม่ ๆ มารู้จักและมีการซื้อ – ขายเกิดขึ้นค่ะ อ้อ! รวมถึงเก็บ Feedback ความต้องการ – คำแนะนำของลูกค้าเอาไว้ เพราะความคิดเห็นของลูกค้าเนี่ยแหละค่ะ สามารถเอามาเป็นแนวทางในการพัฒนาการขาย จนไปถึงสินค้าใหม่ ๆ ที่เราจะนำมาจำหน่ายในอนาคตได้ด้วยนะคะ
8. สร้างความรับรู้กับลูกค้าว่าต้องรีบซื้อ
การจะอัดโปรโมชั่นอย่างเดียว คงไม่พอ เพราะลูกค้าเอง ก็มีการเปรียบเทียบ โปรโมชั่น กับร้านอื่น ๆ เหมือนกัน แต่ถ้าเราเปลี่ยนมาเล่นกับความรู้สึกกับลูกค้า (FEAR OF MISSING OUT) ทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าต้องรีบซื้อ รีบ CF รีบโอนเงิน เพราะ “มีเวลาจำกัด” หากว่าไม่ซื้อตอนนี้ ก็อาจจะไม่ได้ราคานี้อีกแล้ว เช่น จัดโปรโมชั่นลดสินค้า 80% ภายใน 1 ชั่วโมงนี้เท่านั้น, ลดกระหน่ำวันเลขสวย 11.11 12.12 เป็นต้น แถมวิธีนี้ จะเป็นการส่งเสริมการขาย ที่เล่นกับความรู้สึกของผู้ซื้อได้อย่างชัดเจนเลยทีเดียว
9. SMART BUYER คือ สิ่งที่ลูกค้าต้องการ
วิธีปิดการขาย ในระยะเวลาอันสั้น คือ ทำให้ลูกค้ามีความรู้สึกว่า “ซื้อแล้วรู้สึกคุ้มกว่าคนอื่น” เช่น จัดทำโปรโมชั่นพิเศษสำหรับลูกค้าเก่า รับส่วนลด 30% เมื่อซื้อสินค้าภายในร้าน หรือคำโฆษณา ที่สื่อว่า ยิ่งซื้อเยอะยิ่งลดเยอะ ก็สามารถปิดการขาย แถมยังเป็นการ Upsell อีกหนึ่งวิธีด้วย
10. รับประกันสินค้าเพื่อสร้างความมั่นใจ
ในโลกออนไลน์ เป็นเรื่องที่ปฏิเสธไม่ได้ว่า ลูกค้า ยังมีความลังเลในเรื่อง ซื้อของออนไลน์ แล้วสินค้าจะไม่ตรงปก กลัวว่าสินค้าจะไม่ได้คุณภาพ เพราะไม่ได้สัมผัสสินค้าด้วยตัวเอง “การรับประกันสินค้า” เป็นวิธีการสร้างความมั่นใจ ให้ลูกค้าว่าถ้าหากไม่ดีจริง สามารถเปลี่ยนใหม่ได้ หรือคืนเงินให้ทันที ภายใน 30 วัน ลูกค้าจะเห็นถึงความจริงใจของร้านค้ามากขึ้น ว่า สินค้าของเราดีจริง ตรงปกไม่หลอกลวง แถมวิธีนี้ยังเป็นวิธีช่วย แก้ปัญหาโดนตัดราคา จากคู่แข่งได้อีกด้วย เพราะคู่แข่งที่กล้าตัดราคา ส่วนใหญ่ จะไม่เหลือกำไรเพียงพอ ที่จะมารับประกันสินค้าในส่วนนี้นั่นเอง
เป็นอย่างไรกันบ้าง เทคนิคการ ขายดี ปัจจัยสำคัญก็คงอยู่ที่ตัวผู้ขายเป็นหลัก หากเข้าใจ พร้อมรู้ว่าสิ่งไหนควร ไม่ควรทำ ก็จะช่วยเพิ่มโอกาสให้ยอดขายสูงขึ้นได้ และต้องมีใจรักในงานขายจริง ๆ แล้วทุกอย่างจะส่งผลให้ประสบความสำเร็จกับอาชีพนี้ตามที่ตั้งใจไว้นับแต่ครั้งแรกที่เริ่มต้นนั่นเอง
สามารถติดตาม บทความดี ๆ ได้ที่นี่
สำหรับใครที่ต้องการ ต่อยอดธุรกิจ สร้างรายได้เสริม มาเริ่มต้นธุรกิจ “แฟรนไชส์ไก่ทอด” ที่คุ้มค่ามากที่สุด กับ นายหัวไก่ทอดหาดใหญ่ กันดีไหม? เริ่มต้นธุรกิจเพียง 2,490 บาท การันตีได้ว่า เป็นแฟรนไชส์ ไก่ทอด ที่ได้มาตรฐานความอร่อย และสามารถสร้างรายได้ ได้จริง คืนทุนไว คุ้มราคาอย่างแน่นอน! สนใจเริ่มต้นธุรกิจกับพวกเรา แฟรนไชส์ นายหัวไก่ทอดหาดใหญ่ คลิกเลย
อ้างอิงข้อมูลจาก : fillgoods.co, page365.net